• 26 พฤศจิกายน 2024

OPPO Zero-Power Tag ได้รับรางวัล Best Inventions of 2023 จากนิตยสาร TIME พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน

 OPPO Zero-Power Tag ได้รับรางวัล Best Inventions of 2023 จากนิตยสาร TIME พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน

Zero-Power Tag ของ OPPO ได้รับรางวัล TIME’s list of Best Inventions for 2023  ในประเภทการทดลอง ส่งผลให้ OPPO เป็นหนึ่งในบริษัทอย่าง Apple, Samsung และ Sony ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับนานาชาติในด้านสิ่งประดิษฐ์  
ในทุกปี TIME ได้มีการประกาศรางวัลผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบริการที่กำลังแก้ไขปัญหาที่น่าสนใจด้วยวิธีที่สร้างสรรค์ ผลลัพธ์ที่ได้คือรายการสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำ 200 ชิ้นที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต การทำงาน การเล่น และความเป็นไปได้ต่างๆ ในหมวดการทดลอง การได้รางวัลของ OPPO Zero-Power Tag ช่วยเพิ่มชื่อเสียงระดับนานาชาติของ OPPO ในด้านความเชี่ยวชาญทางเทคนิคและการคิดแบบใหม่ และตอกย้ำถึงแนวทางใหม่สู่โลกที่ยั่งยืนซึ่งอุปกรณ์ IoT จะไม่สร้างแบตเตอรี่ที่ก่อให้เกิดมลพิษ

เก๋ๆ

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการรวมอยู่ในรางวัล Best Inventions of 2023 ของ TIME สำหรับ OPPO Zero-Power Tag เพื่อเป็นการยกย่องความสำเร็จของเราในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน” Elvis Zhou, OPPO Overseas CMO กล่าว “ในขณะที่การเปลี่ยนไปใช้ B5G/6G เร็วขึ้น ก็มีความท้าทายในการขยายการเชื่อมต่อ IoT โดยไม่ทำให้ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในโลกของเรารุนแรงขึ้น เกิดจากวิสัยทัศน์ของ OPPO ในการต้องการผสมผสานความสะดวกสบายและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม OPPO Zero-Power Tag เป็นอุปกรณ์ IoT ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ด้วยการใช้พลังงานโดยรอบแทนแบตเตอรี่ ด้วยการติดตามวัตถุ การตรวจสอบสภาพแวดล้อม และฟีเจอร์อัจฉริยะอื่นๆ เรารู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ที่จะปลดล็อคพื้นที่ในการใช้งาน IoT และในอนาคตข้างหน้า OPPO จะยังคงมีส่วนร่วมในด้านความยั่งยืนและพัฒนาความคิดริเริ่มที่เป็นนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป”

ที่งาน MWC 2023 OPPO ได้เปิดตัวอุปกรณ์ต้นแบบ IoT ไร้แบตเตอรี่เครื่องแรกของบริษัท นั่นคือ OPPO Zero-Power Tag ซึ่งขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีการสื่อสารแบบ Zero-Power ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีหลักๆ เช่น การเก็บเกี่ยวพลังงาน RF การกระเจิงกลับ และการประมวลผลพลังงานต่ำ Tag นี้สามารถเก็บเกี่ยวพลังงานได้โดยตรงจากสัญญาณ Bluetooth, WiFi และโทรศัพท์มือถือ ทำให้ได้ข้อดีหลายอย่างเช่น ขนาดที่เล็กลง ความทนทานที่ดีขึ้น ระยะสัญญาณที่มากขึ้น และต้นทุนที่ต่ำกว่า 

ขณะนี้ OPPO อยู่ระหว่างการพัฒนาการออกแบบ เทคโนโลยี และมาตรฐานอุตสาหกรรมของอุปกรณ์ พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น การตรวจติดตามสุขภาพ เพื่อขยายแอปพลิเคชันของอุปกรณ์ไปยังสาขาต่างๆ มากขึ้น บริษัทเชื่อว่าวันหนึ่ง OPPO Zero-Power Tag จะสามารถป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่นับล้านถูกฝังกลบ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ชีวิตของผู้บริโภคและธุรกิจมีความชาญฉลาดและง่ายยิ่งขึ้น

ความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบหลักในการดำเนินธุรกิจและการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ OPPO มายาวนาน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 OPPO ได้เผยแพร่รายงาน OPPO Climate Action Report โดยได้รับการสนับสนุนจาก Deloitte ที่ปรึกษาระดับโลก ในรายงาน OPPO ให้คำมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2050 และสรุปประเด็นสำคัญ 5 ประการในการบรรลุเป้าหมายนี้ ได้แก่ การผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของผลิตภัณฑ์ การลงทุนในตัวเลือกที่สร้างคาร์บอนน้อยลง ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความร่วมมือด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ในปีนี้ OPPO Battery Health Engine ได้รับรางวัล SEAL Business Sustainability Award ประจำปี 2023 และด้วยนวัตกรรมดังกล่าว ทำให้ OPPO ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 10 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในเอเชียแปซิฟิกในปี 2023 โดย Fast Company สื่อธุรกิจที่ทรงอิทธิพล ในการแข่งขัน OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 OPPO ได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ “Inspiration for the Planet” เพื่อยกย่องนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน และดึงดูดข้อเสนอโครงการมากกว่า 280 รายการจากสตาร์ทอัพทั่วโลก ครอบคลุมตั้งแต่วัสดุเลียนแบบชีวภาพไปจนถึงการจัดเก็บพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย

ด้วยความปรารถนาสำหรับอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน OPPO จะยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และมุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นผ่านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

K