“สุดารัตน์” ลงพื้นที่สวนจตุจักร รับฟังปัญหาผู้ค้า เรียกร้อง กทม. ทบทวนมาตรการของสำนักงานตลาดฯ

 “สุดารัตน์” ลงพื้นที่สวนจตุจักร รับฟังปัญหาผู้ค้า เรียกร้อง กทม. ทบทวนมาตรการของสำนักงานตลาดฯ

“สุดารัตน์” ลงพื้นที่สวนจตุจักร รับฟังปัญหาผู้ค้า เรียกร้อง กทม. ทบทวนมาตรการของสำนักงานตลาดฯ สุดช็อกผู้ค้าโอดถูกยกเลิกสิทธิ์และเก็บค่าปรับสูงถึง1800% โดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส่ ระบุไม่มียุคไหนหนักเท่ายุคนี้ จ่อขอพบผู้ว่า กทม. –พร้อมยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบการบริหาร หลังกระทบผู้ค้ารายย่อยนับพันชีวิต

เย็นวานนี้ ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วยทีมไทยสร้างไทย กรุงเทพมหานคร ทีมกฎหมาย และทีมโฆษกพรรค ลงพื้นที่สวนจตุจักร เพื่อรับฟังปัญหาพร้อมรับหนังสือและหลักฐานการร้องเรียนจากผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยเฉพาะการยกเลิกสิทธิ์แผงค้า 529 ราย โดยไม่มีเหตุผลชัดเจนไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า รวมถึงการเรียกเก็บค่าปรับในอัตราที่สูงเกินจริง และการจัดการพื้นที่ที่ไม่เป็นธรรม

นายมานะ จิตบานชื่น ประธานสหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ในฐานะตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดสวนจตุจักรร้องเรียนว่า เดิมทีตลาดแห่งนี้ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับพ่อค้าแม่ค้ารายเล็ก ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี ปี2561 ซึ่งให้สิทธิ์ในการเช่าพื้นที่ในราคาที่เหมาะสม แต่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา กทม. กลับประกาศยกเลิกสิทธิ์ผู้ค้าจำนวน 529 ราย พร้อมเปิดให้เอกชนเข้ามาประมูลพื้นที่แทน และจากข้อมูลยังพบอีกว่าผู้ที่เข้าประมูลเป็นเอกชนรายใหญ่เพียงรายเดียว

เช่นเดียวกับนางนฤมล แซ่หุ้น ประธานที่ปรึกษา สหกรณ์บริการผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร ตัวแทนผู้ค้ายื่นหนังสือร้องเรียนด้วยว่ามีการเก็บค่าปรับที่ผู้ค้าจ่ายล่าช้าในอัตราที่สูงถึง 1,800% ต่อปี เสมือนเป็นการรีดไถ และเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับผู้ค้ารายย่อย รวมถึงการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าขายเกินพื้นที่ ค่าขายริมฟุตบาท และค่าประกัน โดยไม่มีความชัดเจนและไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าทุกเดือน

ในขณะที่ยื่นหนังสือ ผู้ค้าส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยุคของผู้ว่าชัชชาติ เป็นยุคที่หนักหนาและยากลำบากที่สุด ตั้งแต่ขายของในตลาดแห่งนี้มากว่า 40 ปี จึงอยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ และพรรคไทยสร้างไทย เป็นตัวกลางในการช่วยเหลือประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า การดำเนินการของ กทม. ในกรณีนี้ส่งผลกระทบต่อผู้ค้านับพันชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มคนตัวเล็กที่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน ในฐานะที่ร่วมทำงานกับพลตรีจำลองศรีเมืองอดีตผู้ว่า และท่านเป็นผู้ก่อตั้งตลาดสวนจตุจักร ซึ่งวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งนั้นก็เพื่อเป็นที่ทำมาหากินให้กับคนตัวเล็ก การยกเลิกสิทธิ์ พ่อค้าแม่ขายคนตัวเล็ก และถ้าเป็นจริงตามข่าวว่าจะไปยกพื้นที่ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่


ถือว่าเป็นธรรม เป็นการละเมิดสิทธิ์ของประชาชน พร้อมตั้งคำถามว่า เงินค่าเช่าที่ผู้ค้าจ่ายมาตลอดหลายปีนั้นหายไปไหน เพราะจากการตรวจสอบจากหลักฐานที่ผู้ค้ามอบให้พบว่า สำนักตลาดอ้างว่าให้ผู้ค้าขายขายฟรี ทั้งที่ความเป็นจริงผู้ค้า จ่ายเงินค่าเช่าทุกเดือน ชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติและส่อว่าอาจมีการทุจริตหรือไม่

ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทย จึงได้มอบหมายให้ทีม ปราบทุจริต กทม.และฝ่ายกฎหมายของพรรค ไปเร่งดำเนินการใน3 แนวทางเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าสวนจตุจักร ได้แก่

  1. ขอเข้าพบผู้ว่า กทม. เพื่อให้ช่วยตรวจสอบการบริหารจัดการตลาดนัดสวนจตุจักร และทบทวนมาตรการที่ส่งผลกระทบต่อผู้ค้า
  2. ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช. และศาล เพื่อให้มีการตรวจสอบความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางรายของ กทม.
  3. รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพื่อให้ตลาดนัดสวนจตุจักรกลับมาเป็นพื้นที่ค้าขายสำหรับประชาชนรายย่อย คนตัวเล็กตามเจตนารมณ์เดิม

คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า “ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นพื้นที่ค้าขายสำคัญของคนตัวเล็ก ที่ไม่ควรถูกแปรสภาพไปเป็นแหล่งทำกำไรของกลุ่มทุนโดยผลักภาระให้ประชาชน”

พรรคไทยสร้างไทย จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และคาดว่าจะสรุปข้อมูลพร้อมยื่นเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

K