นายกฯ วิดีโอคอลต้อนรับตัวประกันชาวไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล

นายกรัฐมนตรีได้วิดีโอคอลเพื่อต้อนรับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดินทางไปอิสราเอลเพื่อไปเยี่ยมและรับคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัว 3 ชุดแรก รวมจำนวน 17 คน กลับสู่ประเทศไทย นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้ 

นายกรัฐมนตรีทักทาย เพื่อต้อนรับคนไทยทุกคนกลับบ้าน ดีใจที่ทุกคนเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัย ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีฯ และได้สอบถามถึงผู้คนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว และกล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลที่ทุกหน่วยงานร่วมมือกัน ตลอดเวลาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 คนไทยห่วงใยทุกคน ส่งกำลังใจให้อย่างมาก เพื่อให้ถึงวันนี้โดยเร็ว ใช้ทุกช่องทาง รองนายกรัฐมนตรีฯ ติดต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย กาตาร์ และมิตรประเทศอื่น ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด

รองนายกรัฐมนตรีฯ รายงานสถานการณ์ล่าสุด พบว่าผู้ถูกจับตัวเป็นตัวประกัน 17 ท่าน แข็งแรง มีกำลังใจที่ดี ทางการอิสราเอลดูแลอย่างดี แต่ละคนประสบปัญหาที่อันตราย ทุกคนเป็นห่วงต่อสุขภาพจิต แต่ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมเดินทางกลับไทยเร็วที่สุด โดยรองนายกรัฐมนตรีฯ แจ้งว่าขณะนี้ ได้ข่าวดีเพิ่มเติม มีอีก 2 คน ที่ปล่อยตัวเพิ่ม เป็น 19 คน และหลังจากนั้น เพิ่มอีก 4 คน เท่ากับว่า ตอนนี้ออกมาแล้ว 23 คน คงค้าง 9 คน และทางการไทย คณะที่ทำงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สาธารณสุข กองทัพ ยังต้องทำภารกิจนี้ต่อไปจนกว่าอีก 9 คน จะได้รับอิสรภาพ 

พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า รัฐบาลขอขอบคุณมิตรประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือ หลายประเทศชื่นชอบไทยและพร้อมให้ความช่วยเหลือ รวมถึงได้หารือกับทางการอิสราเอล ซึ่งได้ยืนยันว่าแรงงานไทยจะได้รับการดูแลและสิทธิประโยชน์อย่างดี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอลก็จะประสานความร่วมมือกับอิสราเอล เพื่อให้แรงงานไทยยังคงสามารถกลับเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลได้

โดยตัวแทนคนไทยกล่าวว่าตอนนี้คนไทยมีกำลังใจขึ้นมาก และกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฯ กระทรวงแรงงาน เอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยเหลือจนได้รับการปล่อยตัว และเดินทางมาถึงไทยอย่างปลอดภัย รวมถึงรู้สึกดีใจที่เพื่อนแรงงานไทยที่ปลอดภัยและเดินทางกลับมาถึงไทยได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจกับแรงงานไทยที่เสียชีวิตจำนวน 39 คน ในเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางครั้งนี้