นายกฯ ปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ

 นายกฯ ปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ในโอกาสครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย เรื่อง “The time to act is now พลิกวิกฤต ฟื้นเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน” และรับข้อเสนอทางเศรษฐกิจจากหอการค้าทั่วประเทศ (สมุดปกขาว)

นายกฯ

ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรวมพลังเครือข่ายหอการค้าทุกภาคส่วนตามแนวทาง Connect the dots ในการเชื่อมโยงความร่วมมือและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันไปสู่การพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน Connect – Competitive – Sustainable โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ประธานหอการค้าจังหวัดและเลขาธิการหอการค้าจังหวัด ประธานหอการค้าต่างประเทศ นายกสมาคมการค้า ผู้ประกอบการรุนใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ กรณีเรื่องนโยบายเงิน Digital Wallet ที่มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเมื่อวานนี้ (18 พ.ย. 66) ที่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำว่าความจริงแล้วปัจจัยหลักอยู่แค่นี้ คือ เร่งด่วน จำเป็น วิกฤติหรือเปล่า ซึ่งก็มีบางคนเห็นว่า ไม่เร่งด่วน ไม่จำเป็น ไม่วิกฤติ แต่รัฐบาลนี้เห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เร่งด่วน และสภาพเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะที่วิกฤติ ส่วนที่บอกว่าถ้าจะวิกฤติ ต้อง GDP ติดลบ ท่านพูดถูก ถ้าอย่างนั้นก็ไม่วิกฤติ แต่เราหรือประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เราอยู่บนโลกของการแข่งขันที่สูงมาก ถ้าย้อนกลับไปดูประเทศคู่แข่งของไทย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จะพบว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวขยายตัวไปเท่าไรในปีที่ผ่านมาเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ซึ่งเชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าไทยสามารถทำได้และไปไกลได้อีก ทั้งนี้ 9-10 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเฉลี่ยต่ำกว่า 2% พักหนี้เกษตรกรไป 13 ครั้ง ซึ่งเกษตรกรเองก็อยากมีความภาคภูมิใจไม่ต้องมาพักหนี้ให้เขา เกษตรกรอยากจะมีตลาดใหม่ ๆ สำหรับนำสินค้าเกษตรไปจำหน่ายได้มากและราคาที่ดีขึ้น รวมถึงความต้องการมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนเรื่องการเกษตร เพื่อสร้างผลิตผลที่สูงขึ้น เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลนี้ที่เข้ามาอาสาเข้ามาแก้ไขปัญหา รัฐบาลต้องพยายามทำให้ได้
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็ได้ดำเนินการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม เช่น พักหนี้เกษตรกร การลดค่าไฟฟ้า การลดค่าน้ำมันเบนซินและดีเซล การสนับสนุน Short Quick Win  การสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นมาตรการเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการแล้ว รวมไปถึงการดำเนินการเรื่องของการยกเว้น ตม.6 ซึ่งเป็นแบบฟอร์มที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียจะสามารถเดินทางเข้ามาในไทยได้ง่ายขึ้น ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในวันศุกร์-อาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วันละประมาณ 30,000 คน จากเดิมอยู่ที่ 10,000 คนต่อวัน สิ่งที่พูดเหล่านี้เพียงอยากย้ำว่า รัฐบาลนี้และรัฐมนตรีทุกคนทำงานหนัก ลงรายละเอียดทุกเม็ดเพื่อก่อให้เกิดผลทางเศรษฐกิจ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ตก็เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลเช่นกันที่จะทำให้เกิดผลทางเศรษฐกิจด้วย